เที่ยวจตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) หัวใจของกรุงอัมสเตอร์ดัม

อัมสเตอร์ดัม มาจากคำว่า อัมสเตล (Amstel) ซึ่งเป็นชื่อแม่น้ำ ส่วนคำว่า ดัม (Dam) แปลว่าเขื่อน อัมสเตอร์ดัมจึงหมายถึงหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณเขื่อนแม่น้ำอัมเสตล ประวัติของเมืองอัมสเตอร์ดัมเริ่มขึ้นจากชาวประมงซึ่งอาศัยอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำอัมสเตลได้ประสบปัญหาน้ำท่วมต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน พวกเขาจึงสร้างเสารั้วเป็นแนวกำแพงเขื่อนกั้นน้ำบริเวณปากแม่น้ำอัมสเตลขึ้นมา เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ต่อมาได้มีการขุดลอกแม่น้ำอัมสเตล สร้างประตูกั้นน้ำ เปลี่ยนแปลงทางเดินน้ำ กลายเป็นคลองน้ำ คูน้ำที่เรียงตัวเป็นระบบ ระเบียบ และส่วนที่น้ำแห้งไปก็มีการปรับปรุงดินกลายเป็นที่อยู่อาศัยให้กับผู้คนที่เพิ่มจำนวนขึ้นตามการเติบโตของเมือง ซึ่งชื่อเมืองอัมสเตอร์ดัมนั้น ได้ปรากฏขึ้นในหลักฐานการบันทึกทางประวัติศาสตร์ครั้งแรกใน ปี ค.ศ. 1275 เมื่อเคาต์ฟลอริสที่ 5 (Floris V, Count of Holland) ออกเอกสารอนุญาตให้ประชาชนที่อยู่อาศัยที่อัมสเตอร์ดัมมีสิทธิในการเดินเรือในน่านน้ำอัมสเตลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ลานจตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square)
จตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) 

ดัมสแควร์ อัมสเตอร์ดัม ในอดีต
ดัมสแควร์ อัมสเตอร์ดัม ในอดีต

พื้นที่ในเมืองอัมสเตอร์ดัมตั้งแต่จตุรัสดัมสแควร์จนถึงสถานีรถไฟอัมสเตอร์ดัมเซนทราล (Amsterdam Centraal) ในอดีตนั้นเป็นน้ำ และดัมสแควร์ในอดีตนั้นคือส่วนของตัวเขื่อนและท่าเรือของอัมสเตอร์ดัม ซึ่งท่าเรือนี้เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ เพราะท่าเรืออัมสเตอร์ดัมเป็นสถานที่ที่เรือสินค้านำสินค้าจากทวีปต่างๆ ทั่วโลกมาขนถ่ายและกักตุน เพื่อนำไปจำหน่ายในเนเธอร์แลนด์ และยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป รวมทั้งในทางตรงกันข้าม เรือสินค้าก็นำสินค้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์และจากประเทศในยุโรปไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกด้วยค่ะ

แผนที่เมืองอัสเตอร์ดัม
แผนที่เมืองอัมสเตอร์ดัม

ลานจตุรัสดัมสแควร์
จตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) มีพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม เป็นฉากหลัง

นักแสดงเปิดหมวกที่จตุรัสดัมสแควร์
นักแสดงเปิดหมวกที่จตุรัสดัมสแควร์

อัมสเตอร์ดัมได้มีการขยับขยายเมือง ขุดสร้างคลอง สร้างอาคารบ้านเรือน โบสถ์ อนุสาวรีย์ ล้อมรอบลานบริเวณดัม ทำให้เกิดเป็นลานจตุรัสขนาดใหญ่ใจกลางเมืองขึ้นมา ซึ่งสิ่งก่อสร้างสำคัญที่ตั้งอยู่ล้อมรอบจตุรัสดัมสแควร์ได้แก่ อนุเสาวรีย์แห่งชาติ (National monument) พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam) และโบสถ์ใหม่ 

จตุรัสดัมสแควร์เป็นจุดศูนย์รวมในการจัดกิจกรรมสำคัญต่างๆ เช่น เป็นลานสำหรับจัดงานประจำปี เป็นสถานที่สำหรับการแสดงออกของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง การชมนุมประท้วง ทุกปีจะมีการจัดพิธีเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามโลกที่ดัมสแควร์แห่งนี้ ที่สำคัญกษัตริย์องค์ปัจจุบันก็จัดพิธีเฉลิมฉลองการสมรส และจัดพิธีสถาปณาแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ ณ ที่แห่งนี้เช่นกัน จนกล่าวได้ว่า "ดัมสแควร์ คือ หัวใจของอัมสเตอร์ดัม" ปัจจุบันนี้จตุรัสดัมสแควร์แห่งนี้ไม่ใช่ท่าเรืออีกต่อไป แต่บทบาทของดัมสแควร์ในแง่ของการเป็นศูนย์รวมของผู้คนจากทุกมุกโลก ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเลยค่ะ เวลาเราไปเที่ยวที่นี่ทีไรก็มักจะรู้สึกเหมือนไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะจะได้ยินผู้คนพูดคุยกันหลากหลายภาษา คุณลองไปนั่งเล่นสบายๆ และมองดูผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา พร้อมกับสังเกตรูปร่างหน้าตาสีผมของผู้คนก็สนุกไม่เบาค่ะ 

ในบล็อกนี้เราจึงขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ที่จตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ให้คุณได้อ่านเป็นแนวทางในการวางแผนทริปอัมสเตอร์ดัมของคุณค่ะ  โดยเริ่มต้นจากอนุสาวรีย์แห่งชาติ ตามด้วยพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม ต่อด้วยโบสถ์ใหม่ และปิดท้ายด้วยพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ค่ะ

1. อนุเสาวรีย์แห่งชาติ (National monument)

อนุเสาวรีย์แห่งชาติ (National monument) อัมสเตอร์ดัม

Monument op de dam
ทำความสะอาดอนุสาวรีย์แห่งชาติ 

อนุเสาวรีย์แห่งชาติ (National monument) อัมสเตอร์ดัม
ด้านหลังอนุสาวรีย์แห่งชาติ

อนุเสาวรีย์แห่งชาติ (National monument) อัมสเตอร์ดัม
จตุรัสดัมสแควร์ มองจากด้านหลังอนุเสาวรีย์แห่งชาติ

แลนด์มาร์คสำคัญของจตุรัสดัมสแควร์ คือ อนุเสาวรีย์แห่งชาติ ผู้คนส่วนมากจะใช้ที่นี่เป็นจุดนัดพบค่ะ เพราะหาได้ง่าย และอยู่ใจกลางเมือง เราเองก็ใช้เสาอนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นจุดนัดพบบ่อยๆ ค่ะ ครั้งนึงเราเคยนัดเพื่อนคนไทยที่มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมไว้ และปรากฏว่าฝนตกหนักมาก ครั้นจะไปรอในร้านชากาแฟก็กลัวเพื่อนหาไม่เจอ เพราะเพื่อนยังไม่เคยมาอัมสเตอร์ดัม ก็เลยยืนรอตรงใต้รูปปั้นของอนุสาวรีย์เป็นที่กำบังฝน ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวอีกหลายคนที่ทำแบบเดียวกัน สงสัยว่าจะเป็นกรณีเดียวกัน คือ "นัดเจอกันตรงอนุสาวรีย์ที่ดัม" 

เมื่อคุณมาถึงจตุรัสดัมสแควร์แล้ว และคุณอยากจะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์แห่งชาติ คุณก็คงอยากจะรู้ว่าเสาสีขาวนี้มันสื่อถึงอะไร ทำไมจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการรำลึกถึงสงครามโลก เราก็เลยไปค้นข้อมูลมาฝากค่ะ เพราะเราเองก็อยากรู้เหมือนกัน

อนุเสาวรีย์แห่งชาติ (National monument) ประกอบด้วยเสาสูง 22 เมตรซึ่งทำจากหินธรรมชาติสีขาววางบนแท่นสี่เหลี่ยม ด้านหน้าของเสาเป็นรูปปั้นของชายสี่คนถูกล่ามกุญแจมือและบางคนถูกล่ามโซ่ตรวนที่เท้า แสดงให้เห็นถึงความทุกข์ยากของสงคราม ด้านซ้ายและขวาเป็นรูปปั้นผู้ชาย และรูปปั้นสุนัขทำท่าทางเหมือนเห่าหอน  ผู้ชายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้และต่อต้านสงคราม (ของปัญญาชนและผู้ใข้แรงงาน) ในขณะที่สุนัขแสดงถึง "ความฉลาด" และ "ความภักดี" เหนือชายสี่คนเป็นรูปปั้นผู้หญิงขนาดใหญ่สวมพวงมาลา และมีเด็กอยู่บนแขน ถูกล้อมรอบด้วยเหล่านกพิราบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ สันติภาพและชีวิตใหม่ ส่วนนกพิราบด้านหลังเสาที่โบยบินแสดงถึงการปลดปล่อยและเสรีภาพ ก่อนที่คุณจะถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์แห่งนี้ก็อย่าลืมสังเกตดูรายละเอียดที่เราเขียนเล่านะคะ

ทุกวันที่ 4 พฤษภาคม กษัตริย์และพระราชินี จะมาวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์แห่งนี้ เพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่สอง และ ณ เวลา 20.00 น. ทุกคนทั่วประเทศจะหยุดนิ่งเงียบสงบเป็นเวลา 1 นาทีพร้อมกับกษัตริย์ พระราชินี และผู้คนที่อยู่ที่จตุรัสดัมสแควร์ คุณสามีจะให้ความสำคัญกับพิธีนี้มากค่ะ  ครอบครัวเราก็จะร่วมหยุดนิ่งเงียบสงบเกือบทุกครั้งค่ะ เพราะคุณพ่อของคุณอัลเบิร์ตก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกทหารนาซีจับตัวไป และเขาเองก็ได้รับการบอกเล่าถึงความทุกข์ยากลำบากในช่วงสงครามโลกมาตั้งแต่เด็ก ๆ 

2. พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam) 


พระราชวังหลวง อัมสเตอร์ดัม
ด้านหน้าของพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม
คุณจะเห็นระเบียงซึ่งกษัตริย์ ราชินีจะมาปรากฏกาย และทักทายผู้คนที่มาให้การต้อนรับ

พระราชวังหลวง และโบสถ์ใหม่
ถนนระหว่างพระราชวังหลวง และโบสถ์ใหม่

Royal Palace of Amsterdam
อีกด้านหนึ่งของพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม

พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม เป็นพระราชวังรับรองอย่างเป็นทางการของกษัตริย์ Willem-Alexander เช่น ใช้สำหรับเป็นที่ต้อนรับ และรับรองผู้นำระดับโลกและประมุขแห่งรัฐต่างๆ ที่มาเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังมีการใช้พระราชวังแห่งนี้ในโอกาสอื่น ๆ ของราชวงศ์ด้วย เช่น งานเลี้ยงปีใหม่ งานกาล่าดินเนอร์ และพิธีมอบรางวัลต่างๆ นอกจากนี้ พระราชวังยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ด้วยค่ะ แต่ต้องเสียค่าบัตรผ่าน และค่าธรรมเนียมการเยี่ยมชมนะคะ 

พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัมเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในยุคทอง สถาปนิกออกแบบอาคารเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงอำนาจและความมั่งคั่งของอัมสเตอร์ดัม เดิมสร้างขึ้นไม่ใช่เพื่อเป็นพระราชวัง แต่เป็นศาลากลางของเมืองอัมสเตอร์ดัม ต่อมาในช่วงที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองประเทศเนเธอร์แลนด์โดยพระเจ้าหลุยส์โบนาปาร์ต ได้เปลี่ยนอาคารเป็นพระราชวังเป็นครั้งแรก 

โดยส่วนตัวเราไม่ชอบเข้าชมอาคารสถานที่ บวกกับต้องจ่ายตังค์ด้วย ก็เลยไม่เคยเข้าไปดู แต่บางคนที่ชอบทางด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบอาคาร หรือว่าสนใจเรื่องราวของราชวงศ์ ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยค่ะ เพราะคุณสามารถเดินตามรอยเท้าแขกของราชวงศ์ผ่านห้องหับต่าง ๆ เช่น ห้องโถงอันโอ่อ่า เฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ เลิศหรูอลังการ เราเคยเข้าไปค้นข้อมูลดู พบว่า ในห้องโถง Citizen's Hall มีประติมากรรมหินอ่อน และภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียง ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของอัมสเตอร์ดัมในฐานะศูนย์กลางของจักรวาล ดูจากค่าตั๋วก็คงคุ้ม พร้อมกับมีเสียงทัวร์ (Free Audiotour) ให้บริการฟรีด้วย 

ราคาตั๋ว : ผู้ใหญ่ 10 ยูโร นักเรียน (มีบัตรนักเรียนเนเธอร์แลนด์) 9 ยูโร ฟรีสำหรับอายุ 0 - 18 ปี 
เวลาเปิดให้บริการ : ทุกวัน เวลา 9.00 - 17.00 น.
ที่อยู่ : Dam, Amsterdam

3. โบสถ์ใหม่ อัมสเตอร์ดัม

โบสถ์ใหม่ อัมสเตอร์ดัม
นิทรรศการเกี่ยวกับแอฟริกาที่โบสถ์ใหม่ อัมสเตอร์ดัม

โบสถ์ใหม่ และพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม
โบสถ์ใหม่ตั้งอยู่ติดกับพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม

โบสถ์นี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 แต่ฟังดูแปลกๆ นะคะ ว่าโบสถ์เก่าแก่แต่ชื่อโบสถ์ใหม่  ทั้งนี้เป็นเพราะว่าในเมืองอัมสเตอร์ดัมมีโบสถ์เดิมอยู่แล้วซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ที่ดัมรัก (Damrak) และถูกเรียกว่า โบสถ์เก่าค่ะ โบสถ์ใหม่ ถือว่าเป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และตั้งอยู่ติดกับพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม จึงกล่าวได้ว่าเป็นโบสถ์หลวงคู่กับราชวงศ์ดัซต์  ทำนองเดียวกับที่กษัติรย์ไทยราชวงศ์จักรีมีวัดพระแก้วเป็นวัดหลวงประมาณนั้นค่ะ โบสถ์แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ในพระราชพิธีอย่างเป็นทางการ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีสถาปนาแต่งตั้งประมุขแห่งรัฐ รวมทั้งพิธีสาบานตนต่อรัฐธรรมนูญของเนเธอร์แลนด์ก็ถูกจัดขึ้นที่นี่เช่นเดียวกันค่ะ ใต้พื้นอาคารของโบสถ์จะถูกใช้เป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญของเนเธอร์แลนด์ เช่น กษัตริย์และราชินี วีรบุรุษนักรบ และนักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ เป็นต้น 

นอกจากนี้โบสถ์ใหม่แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงมานานหลายทศวรรษจากการจัดแสดงนิทรรศการระดับนานาชาติที่สำคัญ โดยเฉพาะผลงานศิลปะภาพถ่ายเกี่ยวกับผู้คนและวัฒนธรรม คุณที่สนใจด้านนี้ มีเวลามากพอ และซื้อบัตร I Amsterdam City Card ไว้แล้ว ก็แวะเข้าไปชมผลงานต่างๆ ได้ฟรีค่ะ 

ราคาตั๋ว : ผู้ใหญ่เช็คราคาดูในเวบไซต์ ขึ้นอยู่กับผลงานที่จัดแสดง ฟรีสำหรับอายุ 0 - 18 ปี และ I Amsterdam City Card
เวลาเปิดให้บริการ : ทุกวัน เวลา 10.00 - 17.00 น.
ที่อยู่ : Dam, Amsterdam

4. พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds) อัมสเตอร์ดัม


มาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds) อัมสเตอร์ดัม
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds) อัมสเตอร์ดัม

มาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds) อัมสเตอร์ดัม
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่  มองจากจตุรัสดัมสแควร์

จตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square)
งานประจำปีที่จตุรัสดัมสแควร์ มองจากพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ 

มาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds)
อดีตพระราชินีเบียทริกซ์ (Beatrix) แห่งเนเธอร์แลนด์ เหมือนจริงมากค่ะ

มาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds) อัมสเตอร์ดัม
หุ่นสไปเดอร์แมนในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds) 

ในพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds)
ลูกชาย กับ E.T. ในพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ่ (Madame Tussauds) 

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่
ใครกันเนี่ยคุ้นๆ ประธานาธิบดีทรัมป์นั่นเอง

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ อัมสเตอร์ดัม
หุ่นขี้ผึ้งประธานาธิบดีทรัมป์ในยุคโควิด-19

เมื่อคุณค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจตุรัสดัมแควร์ ส่วนมากคุณมักจะพบข้อมูลเกี่ยวกับอนุสาวรีย์แห่งชาติ พระราชวังหลวง และโบสถ์ใหม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีสถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่  ซึ่งมีตึกอาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งโดดเด่นอยู่ที่จตุรัสดัมสแควร์ คุณที่มีลูกวัยรุ่นก็ลองจัดรายการนี้ไปในทริปของคุณได้ค่ะ เพราะณัฏฐ์ลูกชายเรานี่ชอบมากเลย ถ่ายรูปและทำกิจกรรมต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์หัวเราะกันสนุกสนาน อย่าว่าแต่วัยรุ่นเลยค่ะ วัยแม่อย่างเราก็สนุกกับการชมพิพิธภัณฑ์นี้ไม่เบาเลย 

เราลองอ่านประวัติของมาดามทุสโซดู พบว่าจริงๆ แล้ว มาดามทุสโซเธอชื่อ Marie Grosholz เกิดที่ประเทศฝรั่งเศส เธอมีชื่อเสียงด้านการทำหุ่นขี้ผึ้ง และได้รับเชิญให้เป็นครูสอนศิลปะให้แก่น้องสาวของกษัตริย์ลอดเดอร์ไวก์ที่ 15 (Lodewijk XVI) ต่อมาในช่วงสงครามการปฏิวัติฝรั่งเศส เธอถูกกักขังในข้อหากบฏ เมื่อถูกปล่อยตัวมาหลังสงคราม จากโชคร้ายก็กลายเป็นโชคดี เพราะเธอได้รับมรดกพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งจากครูที่สอนการทำหุ่นขี้ผึ้งให้เธอ ต่อมาเธอก็แต่งงานกับ François Tussaud นายทหารฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "มาดามทุสโซ่" และต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เธอร่วมมือกับลูกชายคนโตจัดแสดงนิทรรศการหุ่นขี้ผึ้งเคลื่อนที่ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วอังกฤษ และสุดท้ายก็มาจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ถาวรขึ้นที่กรุงลอนดอน พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ่ที่อัมสเตอร์ดัมจัดว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ถาวรสาขาแรกนอกประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านี้พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซตั้งอยู่ที่ ถนนกาล์เฟอร์ (Kalverstraat) แต่ย้ายมาอยู่ยังอาคารปัจจุบันในปี ค.ศ. 1991 

ราคาตั๋ว : เช็คราคาดูในเวบไซต์ ซื้อตั๋วออนไลน์จะถูกกว่าซื้อตั๋วหน้าเคาเตอร์ และอาจจะซื้อตั๋วราคาโปรโมชั่นถ้าใช้บริการล่องเรือ หรือรถบัสชมเมือง
เวลาเปิดให้บริการ : ทุกวัน วันอาทิตย์ - วันพฤหัสบดีเวลา 10.00 - 18.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 10.00 - 19.00 น.
ที่อยู่ : Dam, Amsterdam

ขณะที่เรากำลังเขียนบล็อกนี้อยู่ เป็นช่วงที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในประเทศเนเธอร์แลนด์เริ่มรุนแรงขึ้นอีกครั้งเป็นระลอกที่สอง หลังจากที่เริ่มสงบไปมากในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม และดูเหมือนว่าอัมสเตอร์ดัมก็จะได้รับผลกระทบนี้ค่อนข้างมาก เราก็คงต้องรอจนกระทั่งสถานการณ์อันเลวร้ายของโรคนี้หมดไป ก่อนจะกลับมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมอีกครั้ง เพื่อนๆ ก็ อดใจรอก่อนนะคะ 

ก่อนจะปิดท้ายบล็อกนี้ก็อยากจะใช้พื้นที่ในบล็อกขอบคุณน้องมด ดร. สุนิศา แสงจันทร์ เพื่อนและน้องรักที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยยังทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ที่ช่วยเป็นบรรณาธิการ ช่วยอ่านต้นฉบับ และให้ข้อเสนอแนะพร้อมทั้งให้กำลังใจในการเขียนบล็อคนี้เรื่อยมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และขอบคุณคุณผู้อ่านและเพื่อนๆ ที่คอยติดตามอ่านบล็อกที่เราเขียนขึ้นมา ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานนี้ต่อไปค่ะ 

ความคิดเห็น